ค้นหา

กาแฟฟรุตตี้ ทำได้..มูลค่าเพิ่มเท่าตัว

ไทยรัฐออนไลน์
เข้าชม 350 ครั้ง

นับเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของวงการกาแฟสัญชาติไทย… ที่สามารถพัฒนาเมล็ดกาแฟแบบดั้งเดิม ให้เป็นกาแฟฟรุตตี้ กาแฟมีกลิ่นผลไม้ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าเมล็ดกาแฟให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว

แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่า กาแฟฟรุตตี้ เป็นการเอาผลไม้มาผสมลงไปในกาแฟเป็นเด็ดขาด…เพราะนี่เป็นเทคนิคขั้นสูงในการคั่วกาแฟในอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม ที่จะทำให้เมล็ดกาแฟขม กลายเป็นกาแฟที่มีกลิ่นผลไม้และกลิ่นต่างๆได้ด้วยตัวเมล็ดกาแฟเอง โดยไม่มีการนำสารอย่างอื่นเข้ามาช่วยแต่งเติมแต่อย่างใด

“กาแฟฟรุตตี้ในต่างประเทศมีทำกันมานานแล้ว แต่บ้านเราเพิ่งจะมารู้จักทำกันเมื่อไม่นานมานี้เอง ด้วยการนำเอาองค์ความรู้เรื่อง สารสำคัญที่มีอยู่ในเมล็ดกาแฟมาใช้ประโยชน์ในการสร้างความแตกต่างของกาแฟ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า

สารสำคัญในกาแฟที่ว่า นั่นคือกรดมาลิก เป็นกรดธรรมชาติแบบเดียวกับกรดที่มีอยู่ในแอปเปิ้ลเขียว และการจะทำให้กรดมาลิกในกาแฟถูกขับออกมานั้น ขั้นตอนสำคัญที่สุด คือกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟ ที่ต้องคั่วด้วยครองโรสเตอร์ ด้วยความร้อนระดับปานกลาง และตัวเครื่องคั่วจะต้องมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก ขนาดที่คั่วได้ครั้งละ 1-3 กก. เพื่อความร้อนในการคั่วจะได้เข้าถึงเมล็ดกาแฟทุกเมล็ดได้อย่างสม่ำเสมอและเท่ากัน”

ร่มรัฐ วิชชุเวทิน เจ้าของกาแฟแบรนด์ Santana Koff และ Q grader (นักชิมกาแฟ) ผู้จบหลักสูตรจากสถาบัน SCAA (Specialty Coffee Association of America) บอกว่า การที่คั่วออกมาแบบนี้จะทำให้ได้กาแฟหลายรสที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระดับความร้อนและระยะเวลาในการคั่วที่แตกต่างกันไปตามสูตรลับเฉพาะของผู้ผลิตแต่ ละเจ้า และขึ้นอยู่กับแหล่งปลูกกาแฟด้วยว่า มาจากแหล่งไหน อธิบายง่ายๆ กาแฟต่างที่คั่วมาแล้วรสชาติจะต่างกัน และถึงกาแฟจะปลูกจากที่เดียว คั่วไม่เหมือนกันกลิ่นและรสชาติจะต่างกันได้อีกมันเลยทำให้กาแฟฟรุตตี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรได้… จากเดิมที่เกษตรกรเคยขายเมล็ดกาแฟได้แค่ กก.ละ 150–160 บาท จะเพิ่มขึ้นมาเป็น กก.ละ 280-360 บาท

สำหรับเมล็ดกาแฟที่ ร่มรัฐ นำมาทำเป็นกาแฟฟรุตตี้นั้น รับซื้อมาจาก 2 แหล่ง…คือ ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่นำมาคั่วแล้วได้กาแฟหลายกลิ่นรส มีตั้งแต่ชูการ์เบลนด์ กล้วย สตรอว์เบอร์รี นม&ขนมปัง ส่วนอีกแหล่งได้มาจากดอยผาฮี้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่นำมาคั่วเป็นกาแฟฟรุตตี้จะได้กลิ่นและรสเบอร์รี

สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟสนใจเพิ่มมูลค่ากาแฟธรรมดาของตัวเองให้กลายเป็นกาแฟฟรุตตี้ ติดต่อได้ทาง FB : ร่มรัฐ วิชชุเวทิน หรือ ลิงก์ LINE บริษัท ซานตาน่า คอฟฟ์ http://lin.ee/Ro4sFGb แต่เขามีเงื่อนไขของกาแฟที่จะมาทำเป็นกาแฟฟรุตตี้ได้ จะต้องเป็นกาแฟที่ปลูกในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 ม.ขึ้นไป ดินมีความอุดมสมบูรณ์ มีแร่ธาตุจากหินภูเขาไฟ โดยเฉพาะแมกนีเซียม และต้องปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ เก็บเกี่ยวเฉพาะผลกาแฟสุกสีแดงเท่านั้น และต้องไม่มีหนอนเจาะ การตากเมล็ดกาแฟต้องตากบนแคร่เท่านั้น…ถ้าคิดว่ากาแฟตัวเองมีคุณสมบัติพอ และสามารถทำได้ลองติดต่อไป

คุณอาจจะได้กาแฟกลิ่นรสใหม่ มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวที่สามารถเอาไปอวดชาวโลกได้.

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thairath.co.th/news/local/2431156