ค้นหา

2 สามีภรรยาพลิกฟื้นผืนนาสู่แปลงเมล่อนละลุ ในโรงเรือน สร้างรายได้นับล้านบาทต่อปี

น.ส.กาญจนาวดี ดวงภักดีรัมย์ และนายโชติพัทร์ ดาศรี
เข้าชม 68 ครั้ง

2 สามีภรรยาใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พลิกฟื้นผืนนาที่มีสภาพเป็นดินละลุจนปลูกข้าวไม่ประสบผลสำเร็จ สู่การปลูกเมล่อนในโรงเรือนโดยใช้แร่ธาตุในดินละลุผสมปุ๋ยหมัก และกากอ้อยเป็นส่วนผสมสำคัญในการปลูก ทำผลผลิตสมบูรณ์ สร้างรายได้นับล้านบาทต่อปี

น.ส.เอื้อนจิต ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายประจักร์ ประสงค์สุข เกษตรจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านหนองผักแว่น ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อเยี่ยมชมความสำเร็จของเกษตรกรที่สามารถพลิกฟื้นผืนนาซึ่งอยู่ในพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซากให้เป็นสวนเมล่อนในพื้นที่ “ละลุ” (พื้นที่ที่เกิดการยุบตัวหรือพังทลายของหน้าดินเป็นเวลานาน จึงทำให้ดินมีลักษณะเป็นดินปนทรายดินไม่อุ้มน้ำ)

จนสามารถสร้างรายได้จากการเก็บผลผลิตต่อรอบขายได้ถึง 65,000 บาท และใน 1 ปี สามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ถึง 3 รอบ จึงทำให้มีรายได้ตลอดทั้งปีเกือบ 1 ล้านบาท

โดยมี น.ส.กาญจนาวดี ดวงภักดีรัมย์ และนายโชติพัทร์ ดาศรี 2 สามีภรรยาเจ้าของ “เมล่อน ละลุ ชายแดนตาพระยา” ได้นำชมพื้นที่พร้อมบอกกว่าสาเหตุที่ทำให้การทำนาข้าวในที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จเป็นเพราะลักษณะภูมิประเทศซึ่งเป็นละลุ จึงทำให้ผลผลิตข้าวที่ได้ไม่มีคุณภาพและราคาข้าวตกต่ำ

แต่ภายหลังจากที่ได้ชักชวนกันไปขอคำปรึกษาจากสำนักงานเกษตรจังหวัด ซึ่งได้สนับสนุนให้ทดลองปลูกเมล่อน ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีราคาดี และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดในแปลงนาดังกล่าว โดยปรับรูปแบบการปลูกด้วยการทำเป็นโรงเรือนและเลือกใช้เมล่อนสายพันธุ์ “จันทร์ฉาย” ปรากฏว่าได้ผลผลิตที่น่าพอใจ

“เมล่อนที่สวนของเราได้รับการตรวจรับรองจากสำนักงานเกษตรจังหวัดว่ามีรสชาติหวานกรอบ อร่อย ปลอดภัย โดยปริมาณความหวานอยู่ประมาณ 14 บิต+ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดจึงทำให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงถึง 120 บาทต่อกิโลกรัม อีกทั้งเมล่อนสายพันธุ์ “จันทร์ฉาย” ใช้เวลาปลูกเพียง 65 วันก็สามารถให้ผลผลิตที่สมบูรณ์จนสามารถเก็บออกขายได้เร็ว”

โดยลูกค้าส่วนใหญ่ขณะนี้ยังคงเป็นลูกค้าในพื้นที่ จ.สระแก้ว และใกล้เคียง รวมทั้งลูกค้าในตลาดออนไลน์ที่ขณะนี้มียอดสั่งจองเป็นจำนวนมากจนสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้ดีกว่าการทำนาปลูกข้าว

น.ส.กาญจนาวดี เจ้าของสวนเมล่อน ยังเผยถึงเคล็ดลับการปลูกเมล่อนในสภาพดินที่มีลักษณะเป็นละลุ ซึ่งเป็นดินปนทรายและไม่อุ้มน้ำจึงไม่เหมาะกับการปลูกพืชว่า เมื่อได้ทดลองปลูกเมล่อนแบบพื้นที่ปิดคือปลูกในโรงเรือน แล้วนำดินละลุที่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์จำนวนมากมาผสมกับปุ๋ยหมัก กากอ้อย น้ำหมักจุลินทรีย์ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เกษตร รวมทั้งการทดลองปลูกในกระถางพบว่า เมล่อนสามารถเจริญเติบโตได้ดี

จากนั้นจึงได้นำดินละลุมาใช้เป็นส่วนผสมในการปลูกเมล่อน และเมื่อเก็บผลผลิตได้พบว่ามีรสชาติหวานกรอบอร่อย ต่างจากการใช้ดินปกติในการปลูก

“ข้อดีของการปลูกในโรงเรือนคือ สามารถป้องกันแมลงและน้ำฝนได้ ซึ่งทางสวนของเราจะคัดผลเมล่อนที่ยังเล็ก และเลือกผลที่สมบูรณ์ที่สุดไว้เพียงต้นละ 1 ลูกเท่านั้นที่เหลือจะตัดทิ้งเพื่อให้เมล่อนเจริญเติบโตได้เต็มที่จึงทำให้สามารถควบคุมการปลูกได้ประมาณ 250 ลูก หรือ 250 ต้นต่อ 1 โรงเรือน และใช้เวลาในการปลูกประมาณ 3 เดือน สามารถตัดผลผลิตที่มีคุณภาพออกขายได้”

โดยเมล่อนพันธุ์ “จันทร์ฉาย” มีลักษณะผิวเรียบ เปลือกเป็นสีเหลืองทอง มีรสชาติที่หวานกรอบอร่อย โดยมีความหวานเฉลี่ยประมาณ 14 บิต+ และเมล่อน 1 ลูก จะมีน้ำหนักประมาณ 1.5 -2.4 กิโลกรัม

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://mgronline.com/local/detail/9670000027192